km

km
กิจกรรมการขับเคลื่อนการจัดการความรู้ในองค์กรของสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสมุทรปราการ

วันจันทร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ความรู้เรื่อง เทคนิคการเพิ่มประสิทธิภาพทุนชุมชน(กข.คจ.)เพื่อแก้จน


เจ้าของความรู้ นางญาณี ตานะเศรษฐ์
ตำแหน่ง นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ
สังกัด สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอบางบ่อ
แก้ปัญหาเกี่ยวกับ การยืมเงินโครงการแก้ไขปัญหาความยากจน ( กข.คจ.)
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ.2545
สถานที่เกิดเหตุการณ์ อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ

เมื่อปี พ.ศ. 2545 ดิฉันได้ย้ายมาจาก กิ่งอำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อมาปฎิบัติราชการที่ อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ ในขณะที่ดิฉันย้ายมาปฎิบัติราชการที่อำเภอบางบ่อ พัฒนาการอำเภอ คือคุณวิเชียรโชค เพ็ชรภักดี ได้มอบหมายให้รับผิดชอบตำบลบางเพรียง ตำบลคลองด่าน และตำบลบ้านระกาศ ซึ่งตำบลที่ดิฉันรับผิดชอบนี้ มีโครงการแก้ไขปัญหาความยากจน ( กข.คจ.) อยู่ 2 ตำบล คือ ตำบลบางเพรียง และตำบลบ้านระกาศ ซึ่งดิฉันได้ทราบจากพัฒนาการอำเภอว่า ตำบลบ้านระกาศ มีปัญหาเรื่องการดำเนินงานโครงการแก้ไขปัญหาความยากจน (กข.คจ.) เนื่องจากสมาชิกกลุ่มเป้าหมายยืมเงินแล้วไม่ส่งคืน เฉยเมย และมักจะพูดและเข้าใจว่า เป็นเงินได้เปล่า ส่วนตำบลบางเพรียงไม่มีปัญหาอะไร เมื่อพัฒนาการอำเภอเล่าให้ฟัง และได้มอบหมายให้ดิฉันเข้าไปประสานกับผู้นำคือผู้ใหญ่บ้านซึ่งเป็นประธาน และช่วยให้คำแนะนำปรึกษาในเรื่องของโครงการ กข.คจ.เพื่อให้สมาชิกกลุ่มเป้าหมายเข้าใจมากขึ้น ณ ขณะนั้นดิฉันก็คิดเพื่อหาวิธีการเข้าไปแก้ไขปัญหานี้ให้สำเร็จ แต่คงต้องใช้เวลา เนื่องจากปล่อยทิ้งเวลาไว้เนิ่นนาน คงต้องพูดคุยกันนานกว่าจะเข้าใจ และคิดว่าคงต้องเข้าไปสร้างความคุ้นเคยกับสมาชิกกลุ่มเป้าหมายเพื่อสร้างความไว้วางใจให้เกิดขึ้นก่อนงานอื่นจะตามมาภายหลัง
หลังจากนั้นดิฉัน ก็หาโอกาสเข้าไปเยี่ยมเยียนและพูดคุยกับผู้นำ และสมาชิกกลุ่มเป้าหมายเป็นบางคน (ในขณะที่ดิฉันได้ทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องโครงการแก้ไขปัญหาความยากจน(กข.คจ.) งานอื่น ๆใน 2 ตำบลที่ได้รับมอบหมายก็ไม่ให้เกิดความเสียหายแต่อย่างใด คงทำงานควบคู่กันไป) การที่ต้องเข้าไปพบปะผู้นำและสมาชิกกลุ่มเป้าหมาย ส่วนใหญ่ต้องเข้าไปวันเสาร์หรือวันอาทิตย์ ซึ่งจะมีคนอยู่บ้าน และสะดวกต่อการพบปะพูดคุย ดิฉันได้เข้าไปสร้างความเชื่อมั่นด้วยการคลุกคลีทำความเข้าใจและสร้างความคุ้นเคยหลายต่อหลายครั้งด้วยกัน จนกระทั่งเกิดความไว้วางใจและสนิทสนมกัน จึงได้เร่มพูดคุยกันถึงเรื่องการดำเนินงานโครงการ กข.คจ.และได้สอบถามถึงปัญหาที่เกิดขึ้น จึงได้รู้ความจริงว่า สมาชิกกลุ่มเป้าหมาย มีความเข้าใจในการใช้เงินทุนก้อนนี้โดยเข้าใจว่าเป็นเงินที่ไม่ต้องส่งคืน ใครยืมแล้วก็เป็นของคนนั้นเลย

จากประสบการณ์การทำงานของดิฉัน ซึ่งได้เจอกับเรื่องหลาย ๆประเภทมาแล้ว คิดว่าเรื่องแต่นี้แก้ไขได้ จึงได้เริ่มต้นพูดคุยกับผู้นำ และแนะนำว่า ให้ผู้ใหญ่บ้านช่วยนัดสมาชิกกลุ่มเป้าหมายประชุมให้ด้วย จะเข้ามาพูดคุยด้วยตนเอง ซึ่งจากการได้พูดคุยและพบปะกันหลายครั้งทำให้เกิดความไว้วางใจและเชื่อมั่นในตัวพัฒนากร(ดิฉัน)มากขึ้น จึงไม่ยากเลยที่จะนัดประชุมเพื่อให้มาเจอกันและเปิดอกคุยกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ผู้ใหญ่บ้านจึงได้นัดสมาชิกกลุ่มเป้าหมายและให้ดิฉันเข้าไปประชุมชี้แจงรายละเอียดให้สมาชิกกลุ่มทราบอย่างต่อเนื่อง
หลังจาก ที่ผู้ใหญ่บ้านรับปากจะนัดประชุมสมาชิกกลุ่มเป้าหมายให้ ดิฉันก็ได้ศึกษาค้นคว้าหาความรู้เกี่ยวกับเรื่องการดำเนินงานโครงการแก้ไขปัญหาความยากจน (กข.คจ.) เพื่อจะได้เข้าไปแนะนำและชี้แจงให้สมาชิกกลุ่มเป้าหมายเข้าใจและปฏิบัติได้อย่างถูกระเบียบและถูกต้องเป็นที่ปรึกษาให้ชุมชนได้ เมื่อผู้ใหญ่บ้านแจ้งมาว่าได้นัดประชุมสมาชิกกลุ่ม กข.คจ. และได้เชิญพัฒนากรเข้าไปประชุมชี้แจง ดิฉันจึงได้รวบรวมเอกสาร และความรู้ที่มีอยู่ เข้าไปพูดคุย แนะนำให้คำปรึกษาให้รู้ถึงประโยชน์คุณค่าที่ได้รับ และทำให้พ้นจากความยากจนได้อย่างไร และเมื่อตนเองพ้นจากความยากจนแล้ว ยังสามารถช่วยเหลือผู้ที่อยู่ข้างหลังที่มีความยากจนได้ยืมเงินไปเพื่อประกอบอาชีพได้อีกด้วย ทำให้สมาชิกกลุ่ม จำนวน 28 คน ณ ขณะนั้นเข้าใจและยอมรับที่จะส่งเงินยืมคืนตามกำหนด และได้นัดหมายวันที่จะส่งเงินคืน โดยให้พัฒนากรเข้ามาร่วมเป็นสักขีพยานด้วยในวันที่ส่งคืนเงินยืม และเขียนโครงการยืมเงิน กข.คจ. ต่อเพื่อไปประกอบอาชีพ
ในขณะที่พูดคุยเรื่องโครงการ กข.คจ. นั้น ดิฉันก็ได้พูดเกี่ยวกับเรื่องกลุ่มออมทรัพย์ด้วย โดยให้เหตุผลว่า การที่เรายืมเงินไปลงทุน ถ้าเราไม่มีการออมด้วยแล้วจะมีเงินเพิ่มหรือไม่ และได้พูดยกเหตุผลอื่น ๆอีกหลาย ๆข้อ จนกระทั่งทำให้สมาชิกกลุ่มเป้าหมายมองเห็นความสำคัญของการออมเงินด้วย จึงได้ตั้งกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต ในกลุ่ม กข.คจ.ด้วย ทำให้ดิฉัน ดีใจมาก ที่ทำให้สมาชิกกลุ่มเป้าหมายเข้าใจในเรื่องของโครงการ แก้ไขปัญหาความยากจน ซึ่งนอกจากได้ยืมเงินแล้ว ยังมีเงินออมอีกด้วย จากปัญหานี้ ดิฉันได้แก้ไขด้วยตนเองสำเร็จในที่สุด
ขุมความรู้
1. ศึกษาข้อมูลรายละเอียดของสมาชิกกลุ่มเป้าหมาย หาปัญหาและสาเหตุ
2. สร้างความมั่นใจ และความไว้วางใจ ความประทับใจให้ชาวบ้าน
3. ศึกษาหาความรู้จากเอกสารต่าง ๆ เกี่ยวกับโครงการ กข.คจ.
4. หมั่นเข้าพบผู้นำ และสมาชิกกลุ่มเป้าหมายบ่อย ๆ
5. อย่าทำตัวให้เขาเบื่อหน่าย
6. มีจิตใจโอบอ้อมอารี ให้ความช่วยเหลือผู้อื่น
7.สอดแทรกงานพัฒนาด้านอื่นเข้ากับกิจกรรมที่ปฏิบัติขณะนั้น

แก่นความรู้
1. ให้คำปรึกษา
2. ใฝ่เรียนรู้จากตำราวิชาการต่าง ๆ
3.สร้างความศรัทธาให้ตนเอง
4. มีคุณธรรม
แนวคิดทฤษฏีที่เกี่ยวข้อง
สร้างการเรียนรู้ชุมชน และการพัฒนาตนเองให้มีประสิทธิภาพในการทำงาน
กลยุทธ์
มีคุณธรรม ไว้วางใจ ให้ความเชื่อถือ สู่ความสำเร็จ
…………………

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น